“คืนนี้เหนื่อยมาก ขายดีทั้งคืน เหลือเพียง 400 บาทก็ครบหนึ่งหมื่นพอดี แต่ไม่ไหวแล้ว จะเก็บร้านแล้ว เพราะเหนื่อยมากพรุ่งนี้ว่ากันใหม่….”
(ลงในนิตยสารช่องทางทำมาหากิน ฉบับเดือน ต.ค. 51) วันนี้ผมอยากจะขอยกตัวอย่างการนำฮวงจุ้ยไปใช้งาน และปรับแต่งร้านค้าของลูกค้าท่านนึงที่ผมได้นำหลักวิชาฮวงจุ้ยที่เรียนรู้มาไปช่วยเพิ่มยอดขายให้ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างหยิบยกมาให้ท่านผู้อ่านได้เรียนรู้ และได้เห็นแนวทางการเอาไปใช้งานจริง และเห็นผลจริง
ร้านนี้เป็นร้านค้าแบบแผงลาย ขายเสื้อผ้าแฟชั่นสำเร็จรูปสำหรับผู้หญิง มีทั้งเสื้อ กระโปรง ผ้า กระเป๋า อยู่ในตลาดนัดกลางคืน ที่วางขายอยู่ริมฟุตบาท โดยพื้นที่ข้างๆจะเป็นทางเดิน และร้านแผงลอยอื่นๆ และด้านหลังเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีคนพลุ่กพล่าน
เดิมทีการจัดวางราวแขวนผ้าสำหรับโชว์ และหุ่นตั้งโชว์ จะจัดวางดังรูปที่ 1.
จากภาพที่ 1 จะเห็นว่า ด้วยเนื้อที่ถูกจำกัดทำให้เดิมที่เจ้าของร้าน อยากเพิ่มพื้นที่ให้ลูกค้าภายในร้าน โดยจัดหุ่นโชว์ให้มีการเอียงออกไปตามทางเดิน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อของในร้าน ได้มีพื้นที่มากขึ้น แต่คนที่สัญจรผ่านไปมาจะมีทางเดินแคบลง
โดยความเชื่อเดิมของเจ้าของร้าน คือ ถ้าเอาหุ่นโชว์ ยื่นออกมามาก จะทำให้คนที่เดินไปมามองเห็น และสนใจมากขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อพิจารณาถึงหลักการของกระแสพลังชี่ที่ไหลเวียนมาบริเวณนี้แล้ว กลับกลายเป็นดันกระแสพลังออกไป ไม่รับพลังเข้าร้านเลย และอีกเหตุผลนึงที่ต้องวางหุ่นโชว์ให้ออกมาก็เพื่อให้ลูกค้ามีพื้นที่ในการเลือกชม และลองชุดได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการจัดเช่นนี้ ยิ่งทำให้มีลูกค้าน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น
จะเห็นได้ดังภาพที่ 2 คือ กระแสถูกบีบออกด้านข้างร้านค้าไปโดยไม่เกิดกระแสไหลเข้าร้าน (ดูรูปที่ 2 ประกอบ)
และอีกเหตุผลนึงที่ต้องวางหุ่นโชว์ให้ออกมาก็เพื่อให้ลูกค้ามีพื้นที่ในการเลือกชม และลองชุดได้มากขึ้น
จากโจทย์ที่ได้รับมาคือ ต้องการเพิ่มยอดขายรายวัน เนื่องจากช่วงที่ไปจัดร้านให้ เป็นช่วงที่เพิ่งเกิดการยุบสภาฯใหม่ๆ เศรษฐกิจแย่มาก ยอดขายจากปกติวันธรรมดาคืนละ 4-5 พันบาท เหลือเพียง 2-3 พันบาท หรือในช่วงต้นเดือนก็ได้เพิ่มมานิดหน่อยเท่านั้น
เริ่มวิเคราะห์ปัญหา
อันดับแรก ที่ต้องปรับแต่งฮวงจุ้ยแผงร้านค้านี้ คือ การจัดวางหุ่นโชว์ด้านหน้า ให้มีการรับและดึงกระแสเข้าสู่ภายในบริเวณร้าน ทั้งนี้เพราะรูปแบบเดิมนั้น แม้ว่าจะดูโดดเด่นจริง แต่การวางเฉียงทำให้รับพลังงานไมได้เต็มที่ และเป็นการดันกระแสออกด้านข้าง จึงขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร
อันดับแรก จึงปรับการวางหุ่นโชว์ด้านหน้าให้ตั้งฉากกันสองด้าน และเป็นการเพิ่มพื้นที่ด้านหน้าให้โล่งขึ้น หรือที่เคยบอกท่านผู้อ่านไปฉบับก่อนหน้านี้ที่เรียกว่า “เหม่งตึ๊ง” ซึ่งเมื่อปรับให้ตั้งฉากกันแล้วจะเป็นการกั้นกระแสคนเดินที่มาจากทั้งสองข้าง ให้เข้ามาปะทะหุ่นโชว์โดยตรง ไม่ว่าจะเดินมาจากทางใดก็จะมองเห็นหุ่นโชว์อย่างชัดเจน และชวนให้น่าเดินเข้าไปดูใกล้ๆมากกว่า เดินเลี่ยงออกด้านข้าง (ดังรูปที่ 3)
จากรูปที่ 3 เมื่อปรับให้ตั้งฉากกันแล้ว เนื้อที่ภายในร้านจะน้อยลง อันนี้เป็นปัญหา เพราะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกน้อยลง แต่ยังคงสามารถเดินไปมาดูสินค้าในร้านได้ ซึ่งผมจะแก้ไขในขั้นตอนต่อไป
ลำดับต่อมา หลังจากปรับหุ่นโชว์ให้ตั้งฉากกันแล้ว ผมได้กำหนดจุดที่สำคัญภายในร้าน 4-5 จุดเพื่อการปรับเปลี่ยนแก้ไขดังนี้
จุด A เป็นจุดภายในร้านค้า ซึ่งเป็นจุดที่ดูทิศทางแล้วว่าเป้นจุดที่ดี ควรมีการเคลื่อนไหว ผมจึงให้เจ้าของร้านหาพัดลมมาหนึ่งตัว ตั้งที่จุดนี้ และเปิดให้มีลมพัดเบาๆ ออกไปทางจุดคนเดิน ซึ่งข้อนี้อาจจะดูขัดแย้งกับการดึงกระแส เพราะแทนที่จะเป่าเข้าร้าน แต่เป็นการเป่าออกจากร้าน เพราะผมเห็นแล้วว่าเพียงแค่มีการเคลื่อนไหวก้ใช้งานได้แล้ว และเพื่อเทคนิคการขาย หากคนเดินไปมาได้รับลมเย็นบริเวณหน้าร้านหลังจากการเดินเลือกซื้ออาหารร้อนๆจากตลาดมาแล้ว มาเจอลมเย็นๆจะทำให้มีการหยุดพัก หรือเดินช้าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการให้ลูกค้าได้แวะพักสายตาเลือกชมสินค้าในร้านด้วย
จุด B, C เป็นจุดที่วางราวแขวนเสื้อผ้าสำหรับโชว์ 2 จุดนี้มีความสำคัญมาก เพราะในหลักฮวงจุ้ยจะเป็นจุดที่พลังเข้ามาปะทะโดยตรงรองจากหุ่นโชว์ด้านหน้า ดังนั้น ผมจึงเลือกให้เอาเสื้อผ้าที่สีสันสดใส สวยงาม มาโชว์ให้เด่นๆที่สุดที่ 2 จุดนี้ และในหลักการจัดร้านแล้ว 2 จุดนี้ก็จะเป้นจุดที่สายตาคนเดินเท้าจะมองเห็นก่อนจุดอื่นๆ ดังนั้นจึงควรเลือกที่น่าสนใจมาไว้ที่นี่ (ในการแก้ไขจริงผมได้คำนวณหาด้วยว่าเสื้อผ้าจุด B ควรใช้สีอะไร และจุด C ควรใช้สีอะไรจึงจะเหมาะสมสอดคล้องกับฮวงจุ้ยมากที่สุด)
จุด D เป็นจุดที่ไม่สูงมากนัก เพื่อไม่บังจุด B, C แต่ก็สำคัญมากเช่นกัน หุ่นที่ตั้งโชว์จุดนี้ ต้องทำให้หันหน้าทำมุมตั้งฉากกัน และทำให้ดูสวยงามโดดเด่น และร่นเข้ามาให้มีพื้นที่ทางเดินด้านหน้ามากขึ้น เพื่อให้มีลานเก็บกักกระแสมากขึ้นนั่นเองซึ่งจะสรุปการปรับแต่งร้านค้าดังรูปที่ 4
สรุปการจัดแต่งร้านค้า และผลการปรับแต่งฮวงจุ้ย
การปรับปรุงการจัดวางใหม่แทบไม่มีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขฮวงจุ้ยเลย เนื่องจากร้านแบบแผงลอยสามารถย้ายและปรับเปลี่ยนได้เลย ไม่ต้องรื้อทุบอะไรใหม่ ผลการปรับแต่งร้านค้า ก่อนที่ผมจะวัดว่าการปรับแต่งสำเร็จหรือไม่ ผมต้องทำการเทียบเคียงกับยอดขายเดิมก่อน ซึ่งทราบมาว่าก่อนหน้านี้ 1-2 เดือนยอดขายลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมคืนละ 6-8 พันบาทในช่วงต้นเดือน เป็นเหลือเพียง 4-5 พันบาทเท่านั้น และช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนที่ผมจะไปแนะนำให้ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่คืนละ 2-3 พันบาทเท่านั้น ซึ่งสาเหตุส่วนนึงก็มาจากเป็นช่วงสิ้นเดือน
วันนั้นผมถามเล่นๆกับเจ้าของร้าน ว่าเคยขายช่วงต้นเดือนสูงสุดที่ เท่าไหร่ก็ได้คำตอบว่าสุงสุดที่เคยเปิดร้านมาคือ 8-9 พันบาทในคืนเดียว ผมจึงพูดไปว่า ถ้าผมปรับสำเร็จ คืนนี้น่าจะได้หนึ่งหมื่นบาทในคืนเดียว ผมยังจำภาพของเจ้าของร้านหัวเราะแบบไม่เชื่อในคำพูดผม คงคิดว่าผมพูดเล่นไปงั้นๆ
คืนแรกหลังจากปรับฮวงจุ้ย สามารถขายได้ถึง 2 พันกว่าบาท ภายในเวลาเพียง 3 ชม. กว่าๆ แต่เนื่องจากฝนตก คืนแรกจึงยังวัดยอดขายโดยรวมไม่ได้ แต่ก็สามารถทำยอดขายได้เทียบเท่ากับวันก่อนๆที่ผ่านมาที่ขายทั้งคืน(ปกติใช้เวลาขายคืนละ 8-9 ชม.) และเสื้อผ้าที่ค้างสต๊อกนานกว่า 2-3 เดือนสามารถขายได้ในวันนั้น
คืนที่ 2 เริ่มจัดร้านค้าตั้งแต่ช่วงเย็น คืนนี้มีเวลาขายเต็มที่ทั้งคืน จนถึงเที่ยงคืน คืนนี้เองที่ผมได้รับโทรศัทพ์มาดังตอนเที่ยงคืน เสียงตามสายบอกว่า
“คืนนี้เหนื่อยมาก ขายดีทั้งคืน เหลือเพียง 400 บาทก็ครบหนึ่งหมื่นพอดี
แต่ไม่ไหวแล้ว จะเก็บร้านแล้ว เพราะเหนื่อยมากพรุ่งนี้ว่ากันใหม่….”
หลังจากคืนนั้น ผมเองก็ใจจดใจจ่อ รอดูว่าจะการรายงานผลอีกหรือไม่ หรือว่าจะขายดีเพียงแค่วันเดียว ปรากฏว่า หลังจากคืนนั้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นมาจากเดิมหลายพันบาทต่อคืน บางคืนขายได้ถึงหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว
แม้จะไม่ใช่ทุกคืน แต่ถ้าเทียบกับสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาขณะนั้น และเทียบกับความเป็นไปได้ในช่วงเวลาต้นเดือน บวกกับการตัดวางฮวงจุ้ยอย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้บ้าง และได้วัดผลแล้วว่า ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจริง เพราะสามารถทำยอดขายสูงสุดที่เคยทำได้ในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างจากหลายๆรายที่ผมได้มีโอกาสไปปรับแต่ง และแนะนำการจัดวางฮวงจุ้ยร้านค้าเท่านั้น จะเห็นได้ว่า การปรับแต่งฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องยาก หรือต้องเสียเงินทองมากมาย เพียงแต่เราต้องเข้าใจหลักการ วิธีการ และยิ่งสามารถเรียนรู้เทคนิคชั้นสูง เช่นการคำนวณหาพลังงานในแต่ละจุด และปรับแต่งฮวงจุ้ยครบทุกองค์ประกอบด้วยแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจได้มากขึ้นว่า ผลที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลดีจริง และผลที่ได้นั้น ไมได้หมายความว่ายอดขายจะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสมอ บางครั้งก็มีความเกี่ยวพันกับปัจจัยอื่นๆภายนอกด้วย เช่น สภาพเศรษฐกิจ และสภาพสังคมในช่วงนั้นๆ เพียงแต่ถ้าปรับแต่งถูกต้อง ช่วงจังหวะที่ควรทำกำไรมากมาย คุณก็จะมีโอกาสได้รับผลนั้นมากกว่าปกติ เช่นนั้นเอง
ข้าพเจ้าเจ๋อหลาง
Zhe Lang
コメント